Wednesday, April 30, 2008

ว.วชิรเมธี

ว.วชิรเมธี-พระนักเทศน์แห่งศตวรรษที่ 21








picture from
http://www.thaitv3.com/ ว.วชิรเมธี ขณะเรียนศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัย








คงเป็นความขัดแย้งกับค่านิยมทางสังคมพอสมควร สำหรับพ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกของตนเรียนสูงถึงระดับปริญญา หางานที่ดีทำ และมีเงินทองมากมาย หากวันหนึ่งลูกที่น่ารักของตัวเองขอออกบวชเมื่อจบชั้นประถม 6 แต่สำหรับพ่อแม่ของ ว.วชิรเมธี นั้น ท่านยินยอมให้ลูกของท่านเดินตามความฝัน ฝันที่แตกต่าง เส้นทางที่แตกต่าง นำมาสู่ความเป็น และประโยชน์แก่สังคมในรูปแบบที่ต่างออกไป

ว. วชิรเมธี เป็นนามปากกาของ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ภูมิลำเนาของท่านอยู่ที่บ้านครึ่งใต้ ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ท่านเป็นคนที่รักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า จึงทำให้ท่านซึมซับความรู้ทุกรูปแบบ

เมื่อยังเด็ก มารดาได้พาท่านไปทำบุญที่วัดบ่อยๆ ทุกวันพระ ซึ่งผลจากการติดตามมารดาไปทำบุญบ่อยๆ นี้เอง ต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสนใจหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา และทำให้หนังสือที่ท่านอ่านไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงหนังสือความรู้หรือหนังสือบันเทิงทั่วไปเท่านั้น แต่หนังสือธรรมะก็เป็นหนังสือที่ท่านสนใจด้วยเช่นกัน

หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ท่านก็ได้ขออนุญาตมารดาบวชเป็นสามเณรที่วัดครึ่งใต้ แตกต่างจากเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันที่มุ่งเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม จนจบนักธรรมชั้นเอก แล้วย้ายมาพำนักอยู่ที่วัดพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีจนสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๖ ประโยค ต่อมาเมื่ออายุครบ๒๑ ปีจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบ้านเกิด และย้ายมาพำนักที่วัดเบญจมบพิตร ในกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีต่อจนสำเร็จเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค ซึ่งถือเป็นการศึกษาขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย ด้านการศึกษาทางโลกนั้น ท่านสำเร็จการศึกษาเป็น ศึกษาศาสตรบัณฑิต” (สังคม-มัธยมศึกษา)จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต” จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ปัจจุบันท่านได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ นอกจากนั้นก็ยังรับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนาให้กับหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย ในแง่จริยวัตรส่วนตัวนั้นนอกจากท่านจะเป็นพระนักวิชาการ พระนักคิด นักเขียน แล้วท่านก็ยังสนใจฝึกสมาธิภาวนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสิบปี

ผลงานที่สำคัญของ ว.วิชรเมธี อันเป็นที่รู้จักกันดีในสังคมไทยปัจจุบันมีเกือบ 20 เล่ม ผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เช่น ธรรมะติดปีก, ธรรมะหลับสบาย, ธรรมะดับร้อน, ธรรมะบันดาล, ธรรมะรับอรุณ, ธรรมะราตรี, ปรัชญาหน้ากุฏิ, ปรัชญาหน้าบ้าน, DNA ทางวิญญาณ, ตายแล้วเกิดใหม่ตามนัยพระพุทธศาสนา และท่านยังได้เขียนบทความลงในนิตยสารหลายฉบับ เช่น เนชั่นสุดสัปดาห์, ชีวจิต, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, WE, HEALTH &CUISINE ฯลฯ

ว.วชิรเมธี มีความโดดเด่นต่างจากพระรูปอื่นๆในสังคมไทยเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากลักษณะหนังสือที่ท่านอ่าน ท่านเขียน รูปแบบของปรัชญา และข้อคิดของท่าน ซึ่งเข้าใจความเป็นไปของสังคมอย่างแท้จริง ทำให้คนฟัง-อ่าน เข้าใจ และชื่นชม

เส้นทางที่แตกต่าง นำมาสู่การสร้างสรรค์ที่แตกต่าง ของคนที่แตกต่าง คนที่น้อมนำธรรมะมาเป็นเส้นทางของชีวิต และ่ถ่ายทอด เพื่อความสงบร่มเย็นแห่งจิตใจของทุกคน

No comments: